Vengeance Trilogy

Sympathy for Mr.Vengeance (2002)

Oldboy (2003)

Sympathy for Lady Vengeance (2005)

มหากาพย์หนังไตรภาคของการล้างแค้นจากเกาหลีใต้

หากแค้นต้องล้างแค้น เรื่องราวทั้งสามเรื่องไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ การล้างแค้น

แต่การดูหนังไตรภาคชุดนี้ของผมมันเริ่มจาก Oldboy

ด้วย plot เรื่อง ด้วยการนำเสนอ มันทำให้อึดอัดกดดัน

และความเหนือทางด้านกระบวนการถ่ายทอด

ต้องบอกว่า มันไม่ใช่หนังเลือดสาด แต่มันคือหนังโรคจิต

หนังโรคจิตที่ทำได้เท่ห์มากๆ ทีเดียว

ลองนึกดูว่า อยู่ดีๆถูกจับขัง 15 ปี คุณจะทำอะไรหลังจากถูกปล่อยออกมา

นอกจากตามหาตัวการ และล้างแค้น แต่มันไม่จบแค่นั้น

หากคำถามที่คุณถาม และคำตอบที่คุณหามันผิด

หนังเรื่องนี้ได้รางวัลมากมาย ที่เด่นๆ ก็ Grand Prize of the Jury 2004

จาก Cannes Film Festival

จากนั้นทำให้เกิดความต้องการดูภาคเริ่มต้นของการล้างแค้นนี้

Sympathy for Mr.Vengeance นั้น อึดอัด และหดหู่ โหดร้ายมากกว่า

ในความรู้สึกของผมเอง ความอึดอัดมาพร้อมกับ

ตัวเอกที่หูหนวกเป็นใบ้ที่ต้องดูและพี่สาวที่ป่วย ด้วยตัวเค้าเอง

และ plot ที่จะทำให้คุณรู้สึกขมุกขมัว ความโหดร้ายของสังคม

และการตัดสินใจที่ผิดพลาดของพวกเค้า การล้างแค้นที่ซ้อนทับจึงเกิดขึ้น

เรื่องนี้ความเท่ห์น้อยกว่า Oldboy แต่รุนแรงกว่ามาก

แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังมีรางวัลติดมาด้วย คือ Best Asian Film 2003

จาก Fant-Asia Film Festival

สำหรับการจบความรุนแรงในตอนสุดท้ายนั้น

ถูกเลือกให้ถ่ายทอดผ่านตัวเอกที่เป็นผู้หญิง

คุณรู้จัก แดจังกึม มะ นั่นแหละ เธอคือคนถ่ายทอดการล้างแค้นนี้

การได้รับ Best Actress ในเรื่องนี้จากหลายสถาบัน

คงการันตี ได้ว่าเรื่องนี้ก็ถึงใจไม่แพ้ สองตอนแรก

การที่เด็กผู้หญิงแสนสวยถูกหักหลังทำให้เธอติดคุก

เพื่อรักษาชีวิตลูกของเธอเอง และการพรากจาก จากลูกอันเป็นที่รัก

มันเป็นแรงขับให้เธอ ค้นหาและล้างแค้น หลังจากพ้นคุกออกมาได้

เรื่องนี้อึดอัด และเท่ห์ในระดับกลางถ้าเทียบจากสองเรื่องแรก

แต่มีความต่างตรงความรู้สึกของการต้องตัดสินใจ

ลองไปดูนะ แล้วลองถามตัวเองว่า ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง

หนังทั้งสามเรื่อง มีผู้กำกับคนเดียวกันคือ Park Chan-wook

และติด rate R ทั้งหมดเนื่องจาก เนื้อหารุนแรงครับ

เหอๆๆ แต่รู้ไหม ผกก.คนนี้หนะ เป็นคนกำกับหนังเรื่อง

I’m a Cyborg, But That’s OK ที่ Rain เป็นคนเล่นด้วยนะ เอิ้กๆ

.