AWAY day 5 old town มั่ว

Day 5

10-apr-2012

 

เจ็ดโมงครึ่ง

เริ่มต้นวันแบบงงๆ ไม่รู้จะตื่นมาทำไม ก็นั่งเล่นโน่นนี่ แล้วก็จองโรงแรมใหม่ ออกไปกินข้าวเช้า แล้วก็เก็บของย้ายที่อยู่ pack ของเสร็จก็ออกเดิน ตอนแรกจะนั่งตุ๊กๆ แต่ว่าพี่ตุ๊กๆ ราคาโหดมาก เลยไม่เอา ไปนั่งพี่วินแทน 

 

เที่ยง

เอาของเก็บห้อง วันนี้ก็พบว่าตั้งใจจะเข้าเมือง เพราะหลังจากอยู่เกาะ และหาดมาติดต่อกันหลายวัน เลยอยากเปลี่ยนสักนิด แล้วก็เริ่มหาว่าจะเข้าเมืองยังไงได้มั่ง เริ่มจากอยากเช่ารถ แต่ติดต่อไปมากมายหลายเจ้า มีอย่างนึงที่ชัดเจนคือ ถ้าฝรั่งเช่ารถ แค่เก็บ passport แต่ถ้าคนไทยเช่าจะมีการวางเงินสด 5,000-30,000 แล้วแต่เจ้า แต่ว่าส่วนใหญ่ก็รถหมด แล้วพอจะใช้รถของ budget car ก็ต้องมีบัตรเครดิต ที่ตอนแรกเรายืมเครดิตของพี่แมก เพื่อจองรถไว้ ทีนี้พอจะไปเอารถเค้าต้องเอาตัวบัตรตัวจริงด้วย แป่ว เพราะว่าหลังจากโน่นนี่จองรถเสร็จก็ชิวรอ 4 โมงเย็นไปรับรถ

 

บ่ายสองกว่าเกือบบ่ายสาม

เดินออกมาจากโรงแรม ระหว่างเดินอยู่หน้าหาดก็พบว่า เอ้ยมีส้มตำไก่เหลือง โอวนี่มันอาหารทะเล ที่ถ้าไม่กินเนี่ยมาไม่ถึงทะเลแน่นอน เลยจัดไปเป็นข้าวเที่ยง 

 

Yellow #phuket #patong #outdoor #day #sea #sky  @Patong Beach

 

กินเสร็จก็ออกเดินไปแวะตาบักก่อน นั่งสักพัก แล้วก็เดินไปท้ายหาดเพราะ budget อยู่แถวๆเดียวกับป่าตองภาราดี พอไปถึงจะเอารถปัปปปปปปป อย่างที่บอก เค้าต้องการบัตรเครดิตตัวจริงด้วย – -” เวน scan, fax อะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น จบ ในที่สุด แผนการเช่ารถยาวของเราก็ปิดตัวลง เอาไงดีหละ คุยกับพี่แมกเสร็จก็ตัดสินใจเอาวะ นั่งรถสองแถวแล้วกัน เราดูเที่ยวรถสองแถวมาอยู่เหมือนกัน ว่ามันมีกลับจากเมืองเที่ยวสุดท้ายหกโมงเย็น แต่จังหวะนั้นเราก็ไม่สนแล้วหละ 

 

สี่โมง

เดินไปนั่งสองแถว!!! พร้อมระหว่างนั้นโทรหาพี่นก พี่นกเลยว่า ชั้นนึกออกแล้ว ชั้นมีน้องคนนึงอยู่ภูเก็ต เด่วลองติดต่อเค้าดูให้พาแกไปกินข้าว โอเค นั่งรถสองแถว ( รถเมล์เกือบใหญ่ ) ไปยังตัวเมือง ไม่ได้นั่งอะไรแบบนี้มาพักนึง ถึงในเมืองราวห้าโมงสิบห้า ก็เริ่มออกเดิน แต่เฮ้ย! เดินไปไหนหละ – -” ไม่รู้ นี่เลย Google map ดู map แบบงงๆ ก็พบว่าบังเอิญเดินไปเจอซอย ซอยนึง ชื่อซอยรมณีย์

เลยเห็นว่าในซอยนี้มี Guesthouse และ gallery และร้านเหล้าเล็กๆอยู่ ระหว่างนั้นเราก็นั่งพักที่หน้า guest house อันนึงที่มีกาแฟให้กินเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่า ห้าโมงสี่สิบ เอ้ย! ไม่มีรถกลับป่าตองแล้ว…..แต่ก้ตัดสินใจว่าเอาหละยังไม่ได้เริ่มเดินเลยนิ ค่อยว่ากันเรื่องกลับแล้วกันนะ


เราเลยได้แผนที่เมืองภูเก็ตมาจาก gallery ฝั่งตรงข้าม guest house ก็เลยรู้ว่าต้องเดินไปไหนบ้าง แต่เอาเข้าจริงที่เดินไปเพื่อดูก็แค่ธนาคาร ส่วนอื่นๆ เราก็เดินให้ enjoy เฉยๆ หลังจากดูเมืองไป 1 รอบ

   

 

Walk in town #phuket #oldtown #building #outdoor #day  @Phuket Old Town

 

หกโมงครึ่ง

พี่นกแจ้งว่าน้องคนนั้นเค้าติดต่อได้แล้ว เด่วน้องมารับไปกินข้าว ตอนทุ่มครึ่ง เอิ่ม… ทุ่มครึ่งอีกชั่วโมงนิหว่า หาที่นั่งแล้วกัน กาแฟก็เพิ่งกินมาสองแก้วพอก่อน ไงดี เดินไปซอยเดิมดีกว่า เดินๆเข้าซอยก็หันขวาเห็นเหมือนร้านนึงมาหน้าตาคล้ายร้านเหล้า เลยเดินเข้าไปถามคนที่นั่งหน้าร้านว่าเป็นบาร์ป่าวครับ เค้าว่าใช่ร้านนั่งมีเบียร์เหล้า เลยอื่อ งั้นขอนั่งหน่อยนะ

 

แต่คนที่เราคุยก็สรุปว่าเป็นเจ้าของ เป็นผู้หญิงตัวเล็กคนนึง ที่ดูแลร้านคนเดียว แต่เค้าว่าเด่วจะปิดร้านอีกสักพัก เพราะจะออกไปกินเหล้ากับเพื่อน เอิ่ม ชิวไปนะ เลยกลายเป็นเพื่อนกันไปในที่สุด ส้มว่าโทรมาถามได้นะว่าเรายังเปิดไหม เลยแลกเบอร์ไว้ พอน้องปิ๊กกี้มารับที่ร้านส้มตอนทุ่มครึ่ง ก็ไปยังร้านข้าวต้มร้านนึง อ่อ ฝนตกด้วยนะ ร้านข้าวต้มที่ว่าจำชื่อไม่ได้เพราะมัวแต่คุยกับปิ๊กกี้อยู่ ปิ๊กกี้ นี่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เพราะพี่นกฝากเราให้ปิ๊กกี้พาทั่วร์ในเมืองนิดคือข้าวเย็นกับโรตี ก็เลยทำความรู้จักกันพักนึง ตอนแรกปิ๊กให้เราขี่มอไซต์ แต่สุดท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ กะโรตีเสร็จ ปิ๊กก็กลัว ฮ่าๆๆ เลยขอขี่เอง เออร้านโรตีที่นี่เค้ากินกันเหมือนข้าวเลยนะ คือนั่งกินกันจริงจังใส่จานกินกับไข่ดาวไรงี้

เราเพิ่งรู้ ปิ๊กไม่กินข้าว แต่กินโรตีไปสองชิ้น เอิ่ม ผมครึ่งชิ้นก็อิ่มจะแย่ เพราะตอนกินข้าวต้มนั่งสั่งยังกะมาสี่คน (แต่กินหมด! ) 

 

Let me sleep punk!! #phuket #outdoor #night #animal #cat @ร้านโรตี ข้าวหมกไก่ บังดีนสะพานหิน

 

 

สี่ทุ่ม

เอาหละได้เวลากลับแต่ไม่รุ้จะกลับยังไงเพราะตอนแรกปิ๊กก็พยายามจะให้กลับกับเพื่อนเค้า แต่เพื่อนก็ดันไม่ว่าง เราก็กลับแผนเดิมอย่างที่เราคิดไว้คือรถเก๋งที่เป็น  taxi ไม่ meter และทำให้เรารู้ว่า เอ้ย ค่ารถภูเก็ตแม่งโหดมาก คือไม่ว่าจะนั่งอะไร เหมือนมีรถสองแถวอย่างเดียวเท่านั้นที่ถูก นอกนั้น คือรถที่ไม่มี meter และกำหนดราคาฝรั่งกับคนไทยเท่ากัน! งง มาก เมืองท่องเที่ยวที่ไม่มีรถโดยสาร และราคาแพง ถ้าเทียบกับเชียงใหม่เอง รถแดงนั่งหลายๆรอบก็แพงอยู่ แต่อย่างน้อยมันก็มีทางเลือกให้เรา และมีเกือบทั้งคืน แต่แพงก็ยังไม่แพงเท่าภูเก็ต – -” ค่ารถกลับห้าร้อย นี่มันไวน์ครึ่งขวด!! 

 

สี่ทุ่มครึ่ง

หลังจากถึงโรงแรมก็เริ่มไม่รู้ว่าจะทำอะไร ขี้เกียจออกไปปาร์ตี้ และไม่รู้ว่ามันจะเปิดกันไหม แต่เมือ่คืนพนักงานที่ terrazzo บอกเราว่าน่าจะเปิดกันหลังเที่ยงคืน ก็โอ ทำไรดีหละ นั่ง up รูปแล้วกัน ไม่มีอะไรทำ ระหว่างนั้นก็พบว่ามี status update ใน fb จาก naie เอ้ย เราลืมไปเลยว่า นัย มันอยู่ภูเก็ต ทักไปใน status ก็พบว่า มีร้านเที่ยวอยู่ 2 ร้านที่นัยมันว่าให้ไปนะ คือ seduction กะ อะไรอีกสักอย่างที่ จางซีลอน นั่งไปนั่งมาคุยไปคุยมาใน status เก๋เองก็บอกว่าไหนๆถึงแล้วก็ออกไปเที่ยวซะ เราก็ว่าเอ้ยตอนเชียงใหม่เดือนก่อนผมไม่สบายจะแย่ ผมยังซ่าออกไปเที่ยวยันเช้าได้เพราะคิดเหมือนกันว่า มาถึงแล้ว เอาวะ

 

ตีสอง

เดินออกไปซอยบางลาเพื่อไป seduction อย่างว่า ตื้ดสลัด พี่คนตรวจบัตรส่ง ticket ลดราคา 50% มาให้น่าจะเป็นสำหรับคนไทยอย่างเดียวมั้ง ก็เข้าไป seduction คนเดียว ตื้ดอยู่เนิ่นนานดูผู้คน ส่วนใหญ่ก็ฝรั่งนั่นหละ จนรุ้สึกพอหละแล้วก็คิดว่ามันน่่าจะใกล้ปิด ก็ออกเดิน 

 

ตีสี่กว่า

เดินออกจากซอยบางลา พร้อมแวะกินแมค แล้วก็ตรงกลับเข้าโรงแรม หลับนอน

 

 

  • ค่าวิน 50 บาท
  • ค่าส้มตำไก่เหลือง + เตียงผ้าใบ + โค้ก 190 บาท
  • ค่าตาบัก 130 บาท
  • ค่าสองแถวเข้าเมือง 25 บาท
  • ค่ากาแฟ 80 บาท
  • ค่าเบียร์ในเมืองขวดละ 60 บาท
  • ค่าข้าวต้ม ร้านอะไรไม่รู้ 350 บาท
  • ค่าโรตี 120 บาท
  • ค่ารถเก๋งกลับหาดป่าตอง 500 บาท
  • ค่าเข้า seduction 200 บาท (ครึ่งนึงสำหรับคนไทย)
  • ค่า vodka soda ที่ seduction แก้วละ 200 บาท
  • ค่า corona ที่ seduction ขวดละ 250 บาท (ถ้าจำไม่ผิด)
  • ค่า mcdonal set อะไรไม่รู้สักอย่าง 250 บาท

 

1 Comment

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s