Rest หมดแรง พักบ้าง
Monday July 30, 2012
เช่นเคยตื่นเจ็ดโมง pack ของแล้วออกไปเจอพี่ๆ ตอน 8 โมง แต่ว่ามีการ cancel กันตอนเช้าว่าไม่ออกไปกินข้าวด้วยกันเราก็เลยตื่นฟรี ฮ่า แต่ก้นะตื่นแล้วเลยออกไปเดินหาข้าวเช้ากิน โดยเลือกจะเดินผ่านไปทางร้าน 8five2 ที่ว่าเป็นร้าน street อีกร้าน กะว่าเจอหน้าร้านแล้วค่อยมาใหม่อีกรอบตอนบ่าย แต่ว่าหน้าร้านก็หาไม่เจอ เลยไปกินข้าวเช้าร้านอะไรก็ไม่รู้ เช้านี้เรากินมาม่าจีน มาริกิน american breakfast เสร็จเราก็เดินกลับ เพราะก็อย่างที่ว่าเช้าไปไม่มีอะไรเปิด แต่เจอร้าน street ร้านนึงไม่ไดจำชื่อ แถวๆละแวกนั้น แล้วก็แวะร้านกาแฟเล็กๆน่ารักชื่อ 18Grams จัดกาแฟ กะชาของมาริ ต่อด้วยการไปหลับ ฮ่าๆๆๆๆ
East meet west #hongkong #people #outdoor #day
Causeway Bay
แล้วก็ตื่นมา pack ของให้เรียบร้อยอีกรอบ แล้วก็เอาของไปไว้ lobby ตามที่นัดกับพี่ๆกันไว้ ทุกคนก็ออกเดินเล่นกันทั่วหน้าแล้วแต่ว่าใครจะไปไหน เราก็เดินหา 8five2 อีกรอบ หลังจากที่อ่านแล้วว่าอยู่ตึกไหนใน 4sq ก็พบว่ามันอยู่ชั้น 2 ต้องขึ้นลิฟท์ไป และหน้าตึกมันก็เหมือนตึกออฟฟิตธรรมดาจริง แหมเล่นเอาเดินวนซะกระจุยกว่าจะเจอ วนไปก็วนมา เอาหละ เจอแล้วก็คุ้มเพราะรองเท้าเพียบอยู่ vans classic นี่อื้อ แต่ว่าเราก็ไม่ได้อะไรกลับมา
Here at super hidden shop #hongkong #streetwear #sneaker #skate #shop
8five2 Shop
แล้วที่นัดกับพี่ๆไว้ว่าจะไปร้าน goldfinch ที่ถ่าย 2046 กะ in the mood for love ก็มาถึงเวลา เราก็เลยเดินกันไปเรื่อยๆ ดูร้านนี้ ร้านนั้นไปเรื่อย จนมาริแหงนมองชั้นสองจากข้างถนนก็เจอร้านที่น่าจะเป็นพวก surf board เลยเดินขึ้นไปกัน เป็นดังคาด เป็นร้าน surf ร้าน board ของเพียบเช่นกัน เดินวนๆ กลายเป็นว่าเราได้รองเท้าจากที่นี่เฉย ไม่ได้กะว่าจะมาได้ nike 6.0 braata ปีอะไรไม่รู้มา ( ตอนกลับทิ้งกล่องหมดเลย เลยไม่รู้เลยว่ารองเท้าที่ซื้อมารุ่นอะไร ปีอะไรบ้าง เยี่ยม ) ร้านที่ได้ของนี่ชื่อ X Game HK ก็ดีของเยอะดี ตอนแรกมาริจะซื้อ penny เป็น skate board อันเล็กๆ สีชมพูแป๊ด แต่ว่าคิดไปคิดมาก็ custom ไม่ได้ และราคาเท่ากะปกติ ตัดสินใจอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้เอามา ( สุดท้ายก็ฝากเพื่อนจากเมกาซื้อมา )
เดินต่อไปไปร้าน Goldfinch คนเยอะแยะ แต่ว่าเป็นอาหาร fusion เฮะ หล่อเลยข้างใน ติดภาพ 2046 กะ in the mood for love ไว้ทุกมุม กะอาหาร เราไม่ได้เลือกอะไรเท่าไร กิน set promotion ที่เป็นเหมือน spaghetti ซอสเนื้อ อะไรสักอย่างจำไม่ได้ แบ่งกันกะมาริ เพราะมาริยังไม่หิว จบก็แยกย้ายกับพี่ๆกันอีกรอบ
We are all in #hongkong #inthemoodforlove #cafe #restaurant #wongkarwai#film #location
Goldfinch Restaurant 金雀餐廳
เราก็เดินเล่นกันไปเรื่อย ไป Marimekko นั่งแช่กาแฟ ตาบัก กับวน I.T อีกสักรอบ แล้วก็ต่อด้วย G.O.D จัดตามด้วย Time Square แล้วก็ fashion walk จนมารู้อีกทีว่าเจ้า hostel เรานั่นอยู่ท้ายซอย fashion walk ตึกเดียวกัน เปิดประตูออกจาก fashion walk ก็เจอประตู hostel เลยทีเดียว กลับมายัดของที่เพิ่งซื้อใหม่นั่น โยนกล่องทิ้งไป และ pack ใหม่เรียบร้อย ก็ออกเดินทางพร้อมพี่ๆอีกครั้งนั่ง MTR ตรงไป Central เพื่อเชคอินผ่าน airport express ซื้อ ticket ใหม่ แล้วก็คือ octopus เก่า แล้วก็ไม่มีอะไรทำ เพราะว่าเรามา IFC เร็วมากคือประมาณบ่าย 3 แต่ว่าเครื่องเราออก 4 ทุ่ม มีเวลาเหลือเฟือเลยทีเดียวแต่ว่ามันเมื่อยหนะ ล้า เลยไม่ได้กะว่าจะเดินดูอะไร จนไปนั่งที่ Simplylife อยู่เป็นชั่วโมง จนเบื่อแล้วก็ออกเดินวนๆรอบ IFC จนเมื่อยซ้ำ แล้วก็ตัดสินใจนั่ง Airport Express ไปสนามบิน ราว 6 โมง กิน burger เป็นมื้อเย็นชิวๆ แล้วก็ checkin ราวสองทุ่ม แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าสนามบินนั่นมันใหญ่มากเพราะว่าเราต้องต่อรถใต้ดินเพื่อไป gate ที่เราต้องขึ้นเครื่องกลับ ทำให้รู้ว่า สุวรรณภูมิ มันไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดเฮะ แวะร้านของโน่นนี่ ซื้อ magazine จีนกลับมา 3 เล่มนั่งรอชิวๆ แล้วก็กะว่าค่อยมาชาร์ตแบตมือถือที่ airport ก่อนมันจะสิ้น พอเห็นปลั๊กก็ร้องจ้าก ลืมไปว่าหัวมันไม่เหมือนก้านนนนน ในที่สุดก็ขึ้นเครื่องแล้วบินกลับไทย
กลับมาถึงไทยมาริยังกังวนตม.เข้าไทยว่าจะให้เข้าไหมนะ เพราะไม่มี visa นักเรียน ต้องขอ visa tourist พอมาถึงตม. เราก็เลยเดินเข้าแถวเดียวกันกับมาริ ไปแถว foreigner คิวยาวเหยียด ต่างกับแถวคนไทยเลยจริงๆ ที่สั้นอย่างมั่ก ยืนราว 15 นาที ก็ถึงคิวมาริ เราก็เดินไปพร้อมกัน แต่พนักงานตรงนั้นเค้าเห็นเราก็ถามเราว่าคนไทยไหมค่ะให้ไปแถวคนไทยได้เลย เราก็ว่าจะส่งเพื่อนก่อนครับ เด่วค่อยไปแถวคนไทยก็ได้ เค้าว่าให้เอาเพื่อนไปด้วยที่แถวคนไทยได้เลย โอ๊ะ เพิ่งรู้ ไม่งั้นพาไปตั้งนานแล้ว กลายเป็นว่าพอเห็นมากับคนไทย ก็ไม่ถามอะไรอีกเลย ปั้ม visa tourist ให้สะดวกรวดเร็ว ฮ่า
จากนั้นก็ตาม step รับกระเป่า เรียก Taxi กลับบ้าน ปิดทริปเดินทนฮ่องกงอย่างเมื่อยเท้า แต่ก็ได้ของคุ้มค่าการออกเดินทาง ฮ่า เหลือเงินฮ่องกงติดตัวกลับมาสัก 120$HK เท่านั้น จาก 9พันกว่า เอิ่ม ไม่รวม credit card – -”
– อาหารเช้า : 50$HK
– 18Grams : 30$HK
– Nike 6.0 braata lr mid-top : 590$HK
– Goldfinch : 60$HK
– กาแฟ ตาบัก : 59$HK
– MTR
– เชคอินบัตร Airport Express : ถ้าจำไม่ผิด 200$HK
– Simplylife : 49$HK
burger king : 60$HK
magazine 3 เล่ม ลืมราคา ฮ่า
– บุหรี่ ไม่รู้เฮะ
– Taxi 250 มั้งนะ
Day 4 Total ~ 1,100$HK
( บริหารเงินดีมาก ใช้หมด ไม่ค่อยเกิน )
Things
- หญิงอย่างเจ๋ง น่ารักสุด แต่งตัวโดน แต่คาดว่าเค้าคงคิดว่าคนไทยเป็นฟิลิปปินส์ เลยไม่มีการส่งสายตาให้ใดๆทั้งสิ้น
- ทริปเดินกระจุยกระจาย เดินทน เดินทรหด
- ฟ้ามืดเกือบสองทุ่ม
- causeway bay ช๊อปปิ้งได้มากกว่าเที่ยงคืน หรือเดินเล่นได้เรื่อยๆเลยเหมือนมันไม่หลับไม่นอนกัน
- คนเกาะนี้แต่งตัวจัดกว่าเรา 2 เท่า
- การเดินทางสะดวกสบาย (แต่ไม่ได้ลองขึ้น taxi นะ)
- เบียร์ราคาเท่าน้ำเปล่า
- พยายามอย่าออกไปไหนวันอาทิตย์เค้าว่ามีแต่คนฟิลิปปินไม่ใช่คนฮ่องกง ก็จะเบียดเสียดยัดเยียดได้อีกอารมณ์นึงเลยทีเดียว จากความประทับใน 2 วันแรกที่เจอคนดูดี วันที่ 3 เราก็พบความจริงว่า อ่อ เค้ามีแรงงานเยอะทีเดียวจนเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละเมืองเลยในวันอาทิตย์
- เราทิ้งกล่องรองเท้าซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย ก่อนทิ้งสมควรอ่านก่อนนะว่ารองเท้าตัวเองรุ่นอะไรที่ได้มา ฮ่า เพราะจะมางมหาทีหลังใน web เนี่ยเรื่องยาว
- หัวปลั๊กไฟไม่เหมือนเรา ต้องมีหัวต่อ
- พยายามเดินดูของ brand name ก่อนเพราะว่ามันลดราคา ส่วนไอ้ที่ผมซื้อหนะไม่ลดราคา ฮ่า
- ก่อนจอง hostel หรือตอนจะพัก อย่าลืมว่าให้เอา hostel ห้องที่มีหน้าต่าง เพราะไม่งั้น มันจะอับมาก อยู่ไม่ได้
- อากาศร้อน และเดินเยอะ เราเปลี่ยนเสื้อยืดวันละสองตัว แล้วแต่จังหวะที่กลับเข้ามาห้อง ถือว่าเสื้อยืดที่ซื้อทั้งหมดได้ใช้ที่นั่นเลยทีเดียว
1 Comment