Street หาของ แนวถนน

Street หาของ แนวถนน
Sunday July 29, 2012

เหมือนเคยพร้อมออกเดินทางหาของกินกับพี่ๆ ตอนแปดโมงเช้า เอิ่มก็ต้องตื่นเจ็ดโมงเหมือนเคยเจอะเจอเสร็จก็ออกเดินทางพร้อมหน้าทั้ง 6 รอบนี้เค้าก็ถามเราว่า tram สีอะไร จำได้ว่าน้ำเงินปัป ก็ขึ้นกันเลย โดยไม่อ่านว่ามันไปแค่ Happy Valley เพราะไม่ดูป้ายเลยทีเดียว เยี่ยม!

ก็ว่าทำไมมันขับเข้าอีกทางที่เราไม่เคยมา เสียเวลาไปครึ่งชั่วโมง ก็ถือว่ามาดูวิว ไปหละกัน รอต่อ tram นั่นต่อไปที่ lan kwai fong ไปร้าน Starbucks ที่ทำเป็น concept ฮ่องกง

ร้านเก๋ๆ แบบ mockup ข้างในก็เหมือนร้านกาแฟ original แบบฮ่องกง มีของแต่งกิ๊บเก๋ ดู retro ได้ใจ กิน และถ่ายรูปกันอย่างพอใจ ก็ออกเดินทางไป Tsim Sha Tsui อีกรอบ เพราะพี่ๆ จะไปกัน แล้วก็ว่าจะไปต่อที่ mong kok เราเลยอ่ะไปด้วยๆ เพราะเราเชคแล้วว่าร้าน street wear ที่เราต้องการมันอยู่ด้านนี้เหมือนกัน


Old town #hongkong #starbucks #concept #coffee #indoor #day
Starbucks 星巴克

แต่พี่ๆเค้าเดินเล่นที่โรงแรมอะไรสักอย่างตรงนั้น ที่มี shop ของอะไรสักอย่างหยุดพี่นุ่นไว้จนพี่นุ่น ต้องรอให้มันเปิดก่อน เรากะมาริ ไม่ได้จะดูเลย ออกเดินทางไปก่อน ใช้ MTR เช่นเคย ตรงไป tsim sha tsui โผล่พ้นดินขึ้นมา ที่แรกที่เราตรงไปคือ Silvercord ที่เราจะเข้าไปดูคือ พวก I.T, D-mop, Nike store ที่เค้าว่ามีของเด็ดอยู่ อย่างใน 4sq ว่าไว้

เออ จริงๆแล้วเราเพิ่งรู้ว่า ไอ้ paterson street ที่ hostel เราอยู่นั้น ล้อมรอบไปด้วยร้าน street wear และ sneaker ที่เราเฝ้าตามหา ( เวนจริงๆ มารู้เอาวันที่ 3 )

เดินๆ จาก mtr เข้า Silvercord จากด้านหลัง และชั้น B1 ผ่านร้านอาหาร food court ต่างๆ เราก็งงๆ ว่าเอ..ทำไมที่นี่คนมองเรากะมาริ กันจริง อาจเป็นได้ว่าห้างมันน่าจะเป็น local เค้าเดินกันแน่ๆ มันเลยมองแบบฉงนว่าสองคนนี้มันทำไร ผ่านชั้นb ขึ้นไปชั้นบน ก็พบว่า ร้านยังไม่เปิด ขณะนั้นเวลาสิบนาฬิกากว่าๆ เวน และพี่แมคว่าเค้าจะมา harbour city เราเลยคิดกันว่า อ่ะ งั้นไปเดิน harbour city ก่อนแล้วกันนะ พอออกมาเดินเลี้ยวซ้าย ป้าาปปปป เจอเลย H&M มาริ ลากเข้าไปอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าน่าจะมีของที่ต่างกันกับฝั่งฮ่องกง ซึ่งก็จริง เราได้ของจากที่นี่ อิอิ เหมือนเคย เสื้อ และกางเกง แหะ พอเราได้ของเสร็จ ( เร็วมาก ) เราก็ปวดท้องเข้าห้องน้ำอย่างรุนแรง แต่ว่ามือถือไม่มี internet ติดต่อมาริไม่ได้ โทรก็ไม่ได้เพราะมาริเป็น sim ฮ่องกงแล้ว เลยตัดสินใจ เดินหา จากชั้น 1 ขึ้นชั้นสอง เดินวนลงชั้น 1 ขึ้นชั้น 2 เดินวนลงชั้น 1 ขึ้นชั้น 2 เดินวนลงชั้น 1 ก็ตัดสินใจว่า ถ้าข้าพเจ้าไม่รีบวิ่งแบบอดกลั้นไป silvercord อาจมีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยโดนตีด่านแตกที่ H&M เลยเอาวะ ไม่เจอก็ไว้ก่อนแล้วกันไม่ทันหละ เดินกลับไป silvercord ชั้น 1 ไม่มีห้องน้ำ ( อ่อ รู้สึกว่าฮ่องกงเค้าจะชอบซ่อนห้องน้ำกันไว้ชั้นอื่นที่ไม่ใช่ Ground ) ชั้น 2 ห้องน้ำชายเต็ม ชั้น 3 ซ่อม เอิ่ม แบบนี้ฆ่ากันเลยดีกว่า ชั้น 4 รอด ในที่สุดก็รอดปลอดภัยกลับมา เดินหามาริต่อที่ HM เจอตัวอยู่ที่ counter จ่ายเงิน สรุปว่าลองเยอะ เลยหาไม่เจอสักที แล้วก็ได้ของมาเยอะ – -‘

กลับมาเดินต่อ silvercord ดูพวก I.T และ local brand อื่นๆ แต่ก็ไม่ได้อะไร ผ่านเวลาไปเนิ่นนานก็เที่ยงนิดๆ เริ่มหิวกันหละเพราะมื้อเช้าไม่หนักเท่าไร ก็วนๆหากินใน silvercord นั่นหละ วนไปวนมาไม่ได้กินอะไรสักทีเพราะร้านที่ recommended ก็คนล้นต้องรอคิว เราเลยตัดสินใจแบบสิ้นคิดนึดนึงกิน CoCo แง้ว กินเสร็จ ก็ต่อเลย


Out there #hongkong #sea #sky #outdoor #day
Ocean Centre 海洋中心

Harbour City และ Ocean Centre แก็งค์พี่ๆ ก็มาเดิน shopping กันอยู่ที่นี่แล้ว แต่ว่าการจะเดินไอ้เจ้าสองห้างเนี่ย มันใหญ่เกินกว่าเราจะกวาดๆเดินหนะ เราเลยต้องใช้ brochure guild ที่เค้าแจก คือไม่ไหวจะเดินจริง เป้าหมายแรก Superdry และ Vans, idn, I.T, MUJI ฮ่าๆๆๆ ถือว่ามีสิ่งที่ต้องการอยู่ที่นี่เช่นกัน ตอนแรกมองข้ามว่าไม่น่ามีอะไรน่าสนใจ อิอิ ในที่สุดระหว่างเดินเดินเดินเดิน ไป superdry เราก็เจอ vans ดักเข้าให้โอย จริงๆมาริ ก็ตามหา vans อยู่รุ่นนึงที่หาซื้อไม่ได้ เราก็ฝากความหวังไว้ที่ฮ่องกง เจอร้าน official ของ vans ที่นี่มีรุ่นเกือบใช่ที่มาริหาอยู่ แต่ว่าก็ยังไม่ใช่ มาริเลยไม่เอา เรากลับเป็นคนได้รองเท้าใหม่ซะเอง – -‘ ได้ OTW รุ่นใหม่มา เป็นพวกรุ่น premium ของ vans นั่นหละ โดนไปหนึ่งดอก และมาริ ก็ซื้อ vans คู่จิ๋วสำหรับเด็กเบบี้ลูกชายของเพื่อนมาริ อย่างหล่อเป็น vans original อันเล็กน่ารักที่คิดว่าหาที่ไหนไม่ได้ หล่อมั่ก เสร็จก็ไป superdry ไม่ได้อะไร ร้านรองท้าต่างๆที่มาริแวะตลอดทาง นอกจาก vans มาริยังตามหา Jeffrey Campbell Spiked Shadow Black แต่ว่าหาเท่าไรก็ไม่เจอ แม้แต่ใน I.T ที่คิดว่าจะมี จนมาริ เลยซื้อเจ้า Martini Spike มาแทน ต่างคนต่างได้ของกันเพียบ อ่อ เราได้เสื้อจาก muji มาอีกตัวนึงด้วย
จริงๆแล้ว เราแวะร้านมากมาย อธิบายคงยืดยาว ไม่ว่าจะเป็น paul smith, zara, nine west, i.t, y3 แหะ อย่างว่าเราไม่ใช่สาย brand name อิอิ อ่อ การเดินตามหา muji นี่ก้ทำเราเดินขาลากเหมือนกัน เพราะเกิดอาการหลง ฮ่าๆๆ เดินซะเหนื่อยเลยทีเดียว ระหว่างนั้น เราก็เกิดงานเข้า เพราะว่างานนึงที่ให้เกมส์ไปคุมมีปัญหาเรื่อง setup ด้วยเวลาที่ไม่พอ เกมส์เลยต้อง setup เอง เลยกลายเป็นหลุด เราก็พลาดไปนิด ดันลืม setup ให้ ตอนแรกก็เป็นตอบ line ผ่านมือถือพี่แมค จนแบตจะหมด เราก็เลยโทรหาเกมส์ โทรได้แปปเดียวเงินหมด เติมเงินโทรใหม่ แบบเดียวก็หมด เวน รู้งี้ซื้อซิม hongkong ดีกว่าจะได้พิมพ์เอาแทน เพราะกลายเป็นว่าที่เราโทรออกหนะแพงกว่าซื้อ sim อีก ป่วย จนแล้วจนรอด ก็เรียบร้อยกับเกมส์ อาจมีขลุกขลักนิดแต่ก้รอดมาได้ ระหว่างเดินมาก็ได้ idN ที่เจตมันฝากซื้อ ( มารู้ทีหลังว่า idN ภาษาจีน เอิ่ม ไม่ทันได้ดูอีกเช่นกันเพราะมัวแต่คุยโทรสับ ) หลังจากพี่ๆกินของว่าง ก็เตรียมออกเดินทางไป mong kok แต่หลังจากเราดูของเราเองแล้ว ก็คิดว่า กลับ hostel กันดีกว่า พี่แมคเลยฝากของอีกสองถุงใหญ่กลับมาด้วยแบกของกระจาย เดินๆ เดินๆ เดินๆ ขึ้น MTR เหมือนเคยจาก tsim sha tsui ต่อ admiralty กลับ Causeway bay แต่ยังเราแวะ forever21 อีกรอบเพื่อซื้อเสื้อเพิ่ม แล้วถึงตรงดิ่งกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว

พัก 30 นาที อย่างเมื่อยล้า แบบแทบน๊อคกันเลยทีเดียว แต่ว่าใครจะยอมได้ง่ายๆ พักชาร์ตโน่นนี่เสร็จก็ออกเดนิกันต่อ ต่อด้วย WTC, SOGO เพื่อตามหา celine อย่างที่มาริต้องการ ฮ่าๆๆ ระหว่างนั้นก็มีแวะกันไอติม แล้วก็นั่งข้างทางกันมั่งหละ celine ไม่เจอจริงๆ ก็ยอมแพ้ระหว่างเดินจนครบบริเวณ causeway นั่น เราก็ตัดสินใจเดินกลับไปกินข้าวเย็น Se wong yee คือเจ้าร้านแรกเลยที่พี่แมคพาเราไปกินที่นั่น ( สรุปว่ามาค้นข้อมูลทีหลัง Se wong yee เนี่ยเป็นร้านอาหาร Michelin Recommendation คือมันอร่อยติดอันดับ อ่ะนะ ดูเอา http://www.hkepicurus.com/2010/12/se-wong-yee.html อ่ะอันนี้อีกอัน http://mashimari.blogspot.com/2012/03/se-wong-yee-snake-king-two-causeway-bay.html) เราคิดว่าที่นี่เวิร์ค และ เราน่าจะอยู่รอดได้อย่างสบายๆ และเป็นอาหารจีน แหม มาทั้งที จะกิน pizza ก็กะไรอยู่ นั่นหละ กลับมาซ้ำอีกรอบ เหมือนวันแรก ฮ่าๆ สั่ง 3 อย่าง ไก่หมูแดงและเป็ด แต่ว่าคราวนี้ไม่มีซุบให้ชี้ เลยไม่รอดเรื่องซุบ แต่ก็อร่อยกันไปตามประสา

ยังไม่จบวันแค่นี้ อย่าๆ อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหน เรายังไหวและมาต่อด้วยร้าน street wear ที่เราเล็งไว้คือ CLOT, Adidas, D-mop, I.T ฮ่าๆๆ อย่างสงสัยว่าเจ้า I.T เนี่ยมีอยู่ทุกที่หละ เพราะว่ามันเป็น chain แต่ของในแต่ละร้านต่างๆกันไป อยากบอกว่าต้องไป สรุปว่า hostel เราเนี่ยเทพจริงๆขอย้ำเพราะร้านที่เราว่าเนี่ย มันอยู่รอบๆ hostel เราเลย เดินนิดเดียว เดินจนวันนี้ขาลากกันเลยทีเดียว ดูรองเท้ากันจนเหนื่อย แล้วก็บังเอิญเดินเจอพี่แมคกะพี่ตาลกันแถว adidas original shop แล้วเราก็ไปนั่งพัก Mr.Steak Grill เพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ นั่นก็ราว ห้าทุ่มหละมั้ง ลองนึกอารมณ์ว่าเดินตลอดเวลาตั้งแต่ 8 โมงเช้ายัน 5 ทุ่มเอาว่านั่งพักไม่เกิน 2 ชั่วโมง นี่เราก็เดินไปกว่า 13 ชั่วโมงเลยทีเดียว อึดไป๊ ตบเบียร์ แล้วเข้านอนอย่างสบายใจ เป็นการปิดวันอย่างสวยงาม


Ad #hongkong #indoor #night
adidas originals

Starbuck : 111$HK
MTR จำไม่ได้
– H&M : 299$HK
Harbour City : IDN 2 เล่ม ~ 200$HK
Vans OTW : 699$HK
Jeffrey Campbell Martini Spike : 1,700$HK
เสื้อ MUJI : 100$HK
City Super น้ำ ขนม : 30$HK
forever21 : 91.8$HK
ไอติม : 30$HK
– ข้าวเย็น Se wong yee : 120$HK
– Mr.Steak Grill เบียร์ : 100$HK
Day 3 Total : 3,480$HK
( ยังไม่ได้รวมเสื้อผ้ามาริ เอิ่ม )

1 Comment

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s